พูดถึงยาแก้ปวด คนส่วนใหญ่จะรู้จัก พาราเซตามอล ที่ใช้กันแทบทุกครัวเรือน แต่การปวดในบางกรณี จะต้องทานยาแก้ปวด "เม็ดสีชมพู" แทน ซึ่งชื่อทางยา คือ ไอบูโพรเฟน แล้วยาชนิดนี้เหมาะกับกรณีไหน ใช้ตอนปวดอะไรได้บ้าง และมีข้อจำกัดในการใช้ยาอย่างไร มาทำความเข้าใจกันก่อน
ไอบูโพรเฟน คือ อะไร
ยาตัวที่ว่ามีชื่อสามัญว่า ยาไอบูโพรเฟน, ไอบิวพรอเฟน (Ibuprofen) เป็นยาแก้ปวดต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ ใช้บรรเทาอาการปวด ลดไข้ และแก้อักเสบ เป็นยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs, non- steroidal antiinflammatory drugs)
ในไทยรู้จักดีในชื่อ ไอบูแมน 400 เม็ดสีชมพู (Ibuman-400) หรือ เม็ดรีสีม่วง ที่เห็นบ่อยตามร้านขายยา
สรรพคุณยาไอบูโพรเฟน
ยาไอบูโพรเฟน ถือเป็นยาแก้ปวดระดับน้อยถึงปานกลาง สามารถใช้บรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ ปวดประจำเดือน และใช้เป็นยาลดไข้
ทางการแพทย์ยังนำไปใช้รักษาอาการปวดจากโรคข้อบางชนิดและบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรน
การออกฤทธิ์ยาไอบูโพรเฟน
กลไกการออกฤทธิ์ของยาไอบูโพรเฟน โดยจะไปยับยั้งการทำงานของสารไซโคลออกซิจีเนส (Cyclooxygenase) กล่าวง่าย ๆ ว่าเป็นสารเคมีในร่างกายชนิดหนึ่งซึ่งจะไปเปลี่ยนสารเคมีบางกลุ่มให้กลายเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) โพรสตาแกลนดินเป็นตัวชักนำให้เกิดอาการปวด การอักเสบ และก่อให้เกิดอาการไข้ของร่างกาย นอกจากนั้นไอบูโพรเฟนยังสามารถออกฤทธิ์โดยตรงที่สมองและบริเวณอวัยวะที่มีอาการปวดได้
วิธีทานยาไอบูโพรเฟน ขนาดรับประทานที่เหมาะสม
ยาไอบูโพรเฟนควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
ไอบูโพรเฟนจัดเป็นยาอันตรายและมีผลข้างเคียงพอสมควร จึงไม่ควรซื้อยากินเอง ควรใช้ในปริมาณที่น้อยสุด และไม่ควรใช้เกิน 10 วัน
ขนาดของยาที่รับ ประทานในผู้ใหญ่และเด็กมีขนาดที่ต่างกัน ควรได้รับคำแนะนำการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้
การรักษาอาการปวดศีรษะ ไข้
- ผู้ใหญ่ 200-400 มิลลิกรัม, วันละ 4-6 ครั้ง รวมไม่เกิน 1,200 มิลลิกรัม
- เด็ก 50-300 มก. ตามอายุ ทุก 6-8 ชั่วโมง วันละไม่เกิน 4 ครั้ง
การรับประทานเพื่อรักษาปวดประจำเดือน
- เริ่มต้นครั้งละ 200 มิลลิกรัม, ทุก 4-6 ชั่วโมง
- อาจเพิ่มปริมาณขึ้นตามความเหมาะ แต่ไม่ควรเกิน 1200 มิลลิกรัมต่อวัน
รักษาอาการป่วยบางโรค ในปริมาณสูงสุด
- ผู้ใหญ่ 400-800 มิลลิกรัม, วันละ 3-4 ครั้ง รวมไม่เกิน 3,200 มิลลิกรัม
- เด็ก 30-40 มก./น้ำหนักตัว/วัน, วันละ 3-4 ครั้ง
ผลข้างเคียงของยาไอบูโพรเฟน
ยาไอบูโพรเฟน อาจมีผลต่อกระเพราะอาหารและระบบทางเดินอาหารได้ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
ในการรับประทานขนาดต่ำ ๆ มีผลระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้และสามารถทำให้ระบบการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติได้ จึงไม่แนะนำให้ใช้ยากับผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือระบบหัวใจ
ผลอันไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ของยาไอบูโพรเฟนเช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย เลือดออกในทางเดินอาหาร ปวดศีรษะ ง่วงนอน เกิดผื่นคันทางผิวหนัง และหอบหืด
ข้อควรระวังในการใช้ยาไอบูโพรเฟน
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร
- มีประวัติหอบหืด
- โรคหัวใจ
- โรคความดันโลหิตสูง
- ผู้แพ้ยาแอสไพริน
- แพ้ยาในกลุ่มเอนเสดทั้งหลาย
ไอบูโพรเฟนเทียบกับพาราเซตามอล
ยา | ไอบูโพรเฟน | พาราเซตามอล |
คุณสมบัติ | ลดไข้ บรรเทาปวด ลดอักเสบ | ลดไข้ บรรเทาปวด |
ปริมาณที่ใช้ | ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร | ขึ้นกับน้ำหนักตัวของผู้ทาน |
ผลข้างเคียง | อาจมีผลต่อทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร | ไม่ค่อยมีผลข้างเคียง ถ้าใช้มากไปอาจมีผลต่อตับ |
ถึงจะเป็นยาแก้ปวดเหมือนกัน แต่ใช้แทนกันไม่ได้ โดยยาไอบูโพรเฟนจะเหมาะกับกรณีมีการอักเสบ ปวดข้อต่อ ซึ่งพาราเซตามอลจะไม่มีคุณสมบัตินี้
เรื่องการแพ้ยา พบสัดส่วนที่น้อยมาก โดย พาราเซตามอล จะแทบไม่มีคนแพ้ยาชนิดนี้ ในขณะที่ ไอบูโพรเฟน จะพบคนที่มีอาการแพ้ยาและผลข้างเคียงมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร
วิธีการใช้ยาก็ไม่ได้ตามขนาดน้ำหนักตัว ต่างจากพาราเซตามอล ควรรับประทานตามแพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ
ยาทั้งสองชนิดไม่จำเป็นต้องใช้ร่วมกัน ถ้าต้องการทานยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
ขอบคุณข้อมูล : ยารักษาใจ, Drags, Medlineplus
ภาพประกอบ: Pixabay
หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา Fascino ผ่านระบบเทเลฟาร์มมาซี เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพทุกช่องทาง
- ปรึกษาง่าย ๆ ไม่ต้องโหลดแอป ได้ที่ https://telepharmacy.fascino.co.th/
- Facebook : https://m.me/fascinohealthcarethailand
- Line : https://lin.ee/3mHf2nZ
- โทร : 02-111-6999