3 วิธีกู้ผิวจาก “สิวที่หลัง” ไม่ต้องหาหมอ

"ได้หน้าอย่าลืมหลัง" เรื่องสิวที่หลังเป็นปัญหาน่าปวดหัว ขึ้นง่าย แต่หายยาก พอหายแล้วยังทิ้งรอยดำ รอยแดงไว้ให้ดูต่างหน้าอีก ใส่เสื้อผ้าก็ไม่มั่นใจ วันนี้เภสัชกรจะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับสาเหตุและชนิดของสิวที่มักขึ้นที่หลัง พร้อมแนะนำการรักษา บอกวิธีป้องกัน เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงไม่ต้องเกิดปัญหาสิวซ้ำ ๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

สาเหตุเกิดสิว

โดยทั่วไปแล้วสาเหตุของการเกิดสิวหลัก ๆ มีอยู่ 5 สาเหตุ ได้แก่ กรรมพันธุ์จากคนในครอบครัว, การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น หรือมีประจำเดือน, เหงื่อและสิ่งสกปรกอับชื้น, อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมทั้งความเครียดก็ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวด้วยเช่นเดียวกัน

ชนิดของสิวที่หลัง

1. สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว 
2. สิวหัวดำ 
3. สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules) 
4. สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) 
5. สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules) 
6. สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง 

การป้องกันและวิธีรักษาสิวที่หลัง

1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจัด หรือไขมันสูง เน้นรับประทานอาหารประเภทผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และดื่มน้ำประมาณ 8 - 10 แก้วต่อวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
2. ทำความสะอาดร่างกายสม่ำเสมอ เพื่อลดสิ่งสกปรก หรือเหงื่อที่สะสมบนผิว รวมถึงใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ เพื่อไม่ให้ผิวอับชื้น ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
3. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของสิว และ Tea Tree Oil มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยให้รอยแดงจากสิวจางลง

ทั้งหมดนี้ก็เป็น 3 วิธีรักษาสิวที่หลังด้วยตนเองอย่างง่าย ๆ ที่เภสัชกรนำมาฝากกัน และนอกจากการดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธีแล้ว ยังจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมอีกด้วย แต่หากสิวที่หลังมีขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนเยอะมาก ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมนะคะ

ผู้เขียน

ธมนวรรณ พรพาณิชเจริญ 

ภ.45498

อ่านอะไรต่อดี ? 

หน้าร้อนต้องระวัง ! ผิวพังไม่รู้ตัว

เคล็ดลับ Save ผิวชะลอวัย ไม่ให้ ชราไว

ทาน Zinc อย่างไร เพื่อรักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ