ไบโอติน สารอาหารสำหรับเส้นผมและเล็บ

ไบโอติน สารอาหารสำหรับเส้นผมและเล็บ

สำหรับคนที่พบปัญหาเส้นผมหลุดร่วง และคนที่ดูแลผิวกับเล็บเป็นอย่างดี ต้องรู้จักวิตามิน "ไบโอติน" กันอย่างแน่นอน เพราะถูกพูดถึงบ่อยครั้งเรื่องสรรพคุณช่วยดูแลเส้นผม เล็บ ผิวหนัง แล้วยังช่วยดูแลระบบเผาผลาญของร่างกาย

 

รู้จักกับไบโอติน

ไบโอติน (Biotin) อยู่ในกลุ่มวิตามิน B รู้จักในชื่ออื่น อย่าง วิตามินบี 7 (vitamin B7) หรือ วิตามินเอช (vitamin H) เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องดีต่อเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ

 

ประโยชน์ของไบโอติน

ไบโอตินช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย และช่วยสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นผม เล็บ และผิวหนัง

  • เส้นผม : ลดอาการขาดร่วงของเส้นผม ชะลอผมหงอกก่อนวัย ป้องกันหนังศีรษะล้าน บำรุงโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรง
  • ผิวหนัง : ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง
  • เล็บ : บำรุงเล็บให้แข็งแรง
  • ร่างกาย: ช่วยระบบเผาผลาญของร่างกาย, ลดกลูโคสในเลือด

 

อาหารที่มีไบโอตินสูง

ไบโอตินพบมากในตับไก่ มีมากถึง 187 μg/100 g และตับวัว 42 μg/100 g รองลงมาจะเป็นไข่แดง มีประมาณ 27 μg/100 g และมีในอีกหลายอย่าง

  • เนื้อสัตว์ ได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อหมู เนื้อไก่
  • ไข่ โดยเฉพาะไข่แดง และมีพอสมควรในไข่ขาว
  • อาหารทะเล ได้แก่ ปลาเนื้อขาว ปลาแซลมอน หอยนางรม น้ำมันปลา
  • ธัญพืช ได้แก่ ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเหลือง ข้าวกล้อง ข้าวโพด
  • ผักและผลไม้ ได้แก่ กล้วย แอปเปิ้ล มะเขือเทศ กะหล่ำปลี
  • อาหารประเภทนม เนย โยเกิร์ต

 

ปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

โดยเฉพาะตอนวัยทำงานควรทานประมาณ 30 mcg ต่อวัน อาจมากกว่าเล็กน้อยจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงเส้นผม เล็บและผิวหนัง

ช่วงอายุ ระดับไบโอตินต่อวัน
แรกเกิด ถึง 6 เดือน 5 mcg
7-12 เดือน 6 mcg
1-3 ปี 8 mcg
4-8 ปี 12 mcg
9-13 ปี 20 mcg
14-18 ปี 25 mcg
ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป 30 mcg
ผู้หญิงตั้งครรภ์ 30 mcg
ผู้หญิงให้นมบุตร 35 mcg

 

ผลข้างเคียง

การทานไบโอตินมากเกินขนาด

ไบโอติน เป็นวิตามินละลายน้ำได้ โดยปกติแม้จะรับเข้าไปมากเกินไปจากผลิตภัณฑเสริมอาหารต่างๆ ก็ไม่ส่งผลเสีย แม้จะทานทีละ 800mcg, 2500 mcg หรือมากกว่านั้น ร่างกายก็สามารถขับออกมาได้ โดยปกติ ไม่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย

บางกรณีอาจมีผลเสียบ้าง ซึ่งผู้ที่ทานไบโอตินมากเกินไปอาจทำให้มีการอาเจียน แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เกิดผื่นขึ้น กรณีแพ้อย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์

 

อาการขาดไบโอติน

หากร่างกายขาดโบโอตินไปอาจทำให้มีอาการผิดปกติหลายอย่างที่ เส้นผม ผิว เล็บ กล้ามเนื้อ เช่น

  • ผมหงอกก่อนวัย ผมร่วง
  • ผิวหนังแห้งและอักเสบง่าย
  • มีผื่นแดงรอบดวงตา จมูก ปาก
  • เล็บเปราะหัก
  • อ่อนเพลียชาบริเวณแขน-ขา
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

 

ไบโอตินช่วยแก้ผมร่วงได้จริงหรือไม่ ?

ตามหลักการแล้ว คนที่ผมร่วงเพราะเส้นผมขาดการบำรุง ซึ่งไบโอตินจะช่วยบำรุงเคราตินในเส้นผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ลดโอกาสผมหลุดร่วง เพิ่มให้ผมเกิดใหม่พร้อมมีความแข็งแรง และลดโอกาสผมหลุดร่วงได้ในบางโอกาส

ส่วนคนที่ยังมีผมหลุดร่วงบ้าง หรือ รู้สึกว่ากำลังผมร่วง เป็นเพราะคนเราผมร่วงทุกวันอยู่แล้ว ประมาณ 50-100 เส้นต่อวัน ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ

แต่สำหรับที่ผมหลุดร่วงจากสาเหตุอื่น เช่น ความเครียด กรรมพันธุ์ แพ้ยาบางชนิด มีโรคผิวหนัง มีการร่วงเป็นหย่อม ๆ ควรจะปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อดำเนินการรักษาได้อย่างตรงจุด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: Wikipedia , MedicalNewsToday, Livestrong

ภาพประกอบจาก: Freepik

 

บทความแนะนำ

ประโยชน์ของวิตามิน B สารอาหารบำรุงสมอง จำเป็นต่อร่างกาย

วิตามิน D ช่วยสู้โควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิตามิน C ปริมาณที่ควรทานแต่ละวัน

บทความการดูแลสุขภาพ