แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่รู้จักกันดี ในเรื่องของการบำรุงกระดูกและฟัน มีในอาหารหลายชนิด แต่การดูดซึมเข้าร่างกายให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่าย มีวิตามินหลายชนิดที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและควรทานร่วมกับแคลเซียม จึงมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มาในรูปแบบแคลเซียมผสมวิตามินรวม เพื่อให้ร่างได้ดูดซึมแคลเซียมได้ในปริมาณที่มากขึ้นและดีต่อสุขภาพร่างกาย
ความสำคัญของแคลเซียม
แคลเซียม (Calcium) คือ แร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากมายต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ในร่างกายของเราประกอบด้วย แคลเซียมมากกว่า 1,200 กรัม เกือบ 55 เปอร์เซ็นต์ พบได้ในกระดูกและฟันจะจับตัวร่วมกับฟอสฟอรัส เรียกว่า "Calcium Phosphates" แคลเซียม ไม่ได้อยู่แค่ในส่วนของกระดูกและฟันเท่านั้น เรายังพบแคลเซียมได้ในเลือดซึ่งจับตัวอยู่กับโปรตีน และพบแคลเซียมอิสระล่องลอยทำหน้าที่อยู่ภายในร่างกายด้วย
Calcium Carbonate เป็นแคลเซียมในรูปแบบที่ถูกดูดซึมได้ดีที่สุด (40%) Calcium เป็นแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งใช้ในการสร้างกระดูกและ ฟัน ทำให้กระดูกมีความแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ การเต้นของหัวใจ การแข็งตัวของเลือดเมื่อมีบาดแผล การทำงานของระบบประสาท การหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
วิตามินรวมที่ช่วยแคลเซียม
Magnesium เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นของร่างกาย 70% ของแมกนีเซียมในร่างกายจะพบที่กระดูก จะอยู่คู่กับแคลเซียมและฟอสฟอรัส ส่วนอีก 30 % จะพบที่เนื้อเยื่ออ่อนและในของเหลวในร่างกาย อัตราส่วน Calcium:Magnesium=3:1 แมกนีเซียมจะเป็นตัวควบคุมสมดุลของแคลเซียม ไม่ให้เข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อมากเกินไป
กรดโฟลิก หรือ โฟลาซิน หรือวิตามิน บี 9 จัดเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกายชนิดหนึ่ง มีความเกี่ยวข้องกับวิตามิน บี12 ในการสร้างเม็ดเลือด ร่างกายมีความต้องการกรดโฟลิกมากน้อยเท่าใด ขึ้นกับอัตราการเผาผลาญอาหารในร่างกายและการหมุนเวียนของการสร้างเซลล์ภาวะต่างๆ ของร่างกาย
Vitamin D เป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการเพื่อการรักษาภาวะสมดุลของระดับแคลเซียมในเลือดและในกระดูก และช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
โครเมียม เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อการเจริญเติบโตที่มีสุขภาพที่ดี มีความจำเป็นต่อขบวนการแตกตัวของโมเลกุลโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต รองจากแคลเซียมร่างกายต้องการโครเมียมในปริมาณ 50-200 ไมโครกรัมต่อวันโครเมียม มีส่วนในการช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่(ในขบวนการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต) ในงานวิจัยพบว่า โครเมียม มีบทบาทในการเพิ่ม HDL หรือคลอเรสเตอรอลชนิดดี และลดระดับคอเรสเตอรอลในร่างกายอีกด้วย
ปริมาณแคลเซียมที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง
ขนาดแคลเซียมที่ควรให้ต่อครั้งไม่ควรเกิน 500 mg เนื่องจากการให้แคลเซียมขนาดสูงครั้งเดียว จะทำให้ประสิทธิภาพการดูดซึมลดลง
ประโยชน์ของแคลเซียมและวิตามินรวม
- เสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- เป็นส่วนประกอบที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว
- ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ
- ช่วยในการทำงานของระบบประสาท
- ช่วยควบคุมการยืดและหดตัวของกล้ามเนื้อ
- ควบคุมความเป็นกรดด่างภายในร่างกาย
- กระตุ้นการทำงานขอโปรตีน ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของมวลกระดูกใหม่
- ช่วยการเสริมเติบโต มีสุขภาพดี
การทานแคลเซียมควรทานในปริมาณที่พอเหมาะและตามความจำเป็น สำหรับคนที่สงสัยว่าตนควรทานแคลเซียมมากแค่ไหน ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหรือเภสัชกรที่ร้านขายยา เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสุขภาพที่เหมาะสมกับเรา
บทความแนะนำ