เป็นโรคอีสุกอีใสทำยังไงดี เรามีคำตอบ

เป็นโรคอีสุกอีใสทำยังไงดี เรามีคำตอบ

เคยมีอาการอย่างนี้กันมั้ยคะ มีตุ่มน้ำใสขึ้นตามตัวและคันมาก ๆ จะเกาก็ไม่ได้กลัวตุ่มแตก นี่คืออาการของโรคติดต่อ ที่ติดง่ายมากอย่าง “โรคอีสุกอีใส” นั่นเอง เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella-Zoster Virus) จากการสัมผัสตุ่มน้ำโดยตรง หรือสูดหายใจเอาละอองเชื้ออีสุกอีใสเข้าไปในร่างกาย โรคนี้มักพบมากทั้งในเด็กทารกแรกเกิด วัยรุ่น และผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อนนั่นเอง

 

อาการโรคอีสุกอีใส

โรคอีสุกอีใสมักมีอาการไม่รุนแรง โดยมีลำดับอาการดังนี้

  • เริ่มด้วยมีไข้ ปวดเมื่อย หรือเจ็บคอ เบื่ออาหาร 
  • ตามด้วยมีตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ และคันขึ้นทั่วตัว กระจายบนใบหน้า ลําตัว และแขนขา ภายใน 24 ชั่วโมง 
  • โดยผื่นเริ่มแรกจะเป็นแบบผื่นแดง ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสและ เปลี่ยนเป็นตุ่มหนอง 
  • จากนั้นผื่นจะตกสะเก็ดทั้งหมดใน 1 สัปดาห์ สุดท้ายสะเก็ดจะหลุดหมดภายในประมาณ 1 - 2 สัปดาห์

 

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอีสุกอีใสแล้ว ถึงแม้อาการจะไม่ได้รุนแรงมาก ก็ควรจะไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาตามอาการ ได้แก่ ให้ยาพาราเซตามอลลดไข้ หากมีอาการคันให้ยากลุ่ม Antihistamine และให้ยาปฏิชีวนะถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เพราะหากโรคอีสุกอีใสรุนแรงขึ้น 

 

ภาวะแทรกซ้อนโรคอีสุกอีใส

ถึงแม้ว่าอาการของโรคจะไม่ร้ายแรงมากก็ตาม แต่ความน่ากลัวของอีสุกอีใสก็คือ โรคนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ โดยผู้ป่วยควรสังเกตอาการเป็นระยะ

หากมีอาการปวดศีรษะ หัวใจเร็ว หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนของโรคอีสุกอีใสได้ โดยภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท หากมีอาการอย่างที่กล่าวไปก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ

 

 

ผู้เขียน

ธมนวรรณ พรพาณิชเจริญ 

เภสัชกร

 

อ่านอะไรต่อดี ? 

5 โรคยอดฮิตวัยทำงาน

4 โรคร้ายเสี่ยง "ตาย" ของคนไม่กินผัก

โรคกินไม่หยุด ใจไม่อยาก แต่ปากไม่หยุดกิน

 

หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ที่ ปวด ป่วย อาย จาม "ถามMacy" เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ

บทความการดูแลสุขภาพ