ปรอทวัดไข้ หรือ เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer) เป็นอุปกรณ์ดูแลสุขภาพชิ้นหนึ่งที่หลายคนมีติดบ้าน ยิ่งช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อุปกรณ์ชิ้นนี้ยิ่งมีสำคัญมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ดูภายนอกเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แต่หากเราใช้งานผิดวิธีอาจทำให้ผลที่ออกมาผิดพลาดได้ เราจึงควรศึกษาวิธีให้ดีก่อนเพื่อให้ได้ผลลัพย์ที่ถูกต้อง โดยสามารถอ่านได้จากบทความนี้
อุณหภูมิร่างกายของเรา คือเท่าไหร่
โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะมีอุณหภูมิประมาณ 36.8 - 37.8 องศาเซลเซียส หากวัดอุณหภูมิออกมาแล้วสูงกว่าค่าดังกล่าวก็ถือว่ามีไข้
แต่อุณหภูมิร่างกายนั้นไม่ได้คงที่ มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ อาหารที่รับประทาน การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย เป็นต้น
วิธีใช้ปรอทวัดไข้ที่ถูกต้อง
หากดูตามสื่อต่าง ๆ รอบตัวไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรืออินเตอร์เน็ตจะเห็นได้ว่า มีการนำปรอทวัดไข้มาใช้หลายรูปแบบมาก บางครั้งก็เห็นเจ้าหน้าที่ให้ผู้ป่วยอมปรอทวัดไข้ บางครั้งก็ให้เหน็บรักแร้ จึงอาจทำให้หลายคนสงสัยว่าแล้วใช้แบบไหนถึงจะถูกต้องกันแน่ คำตอบก็คือการใช้ปรอทวัดไข้นั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยมีรายละเอียด ดังนี้
วัดไข้ทางปาก โดยการสอดส่วนปลายของปรอทวัดไข้ไว้ใต้ลิ้น และให้คนไข้ปิดปากให้สนิท จากนั้นรอประมาณ 3 - 4 นาทีให้แถบปรอทนิ่งจึงค่อยอ่านค่า ส่วนปรอทแบบดิจิตัลให้รอจนสัญญาณดังจึงค่อยอ่านค่าอุณหภูมิ
การวัดไข้ทางช่องปากนั้นควรทำหลังจากทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 20 - 30 นาที เพราะอาจมีผลต่ออุณหภูมิในช่องปาก โดยระวังอย่าให้มีอาหารอย่างลูกอม หมากฝรั่ง หรือขนมตกค้างในช่องปากขณะวัดไข้ โดยการวัดไข้ทางช่องปากนี้ไม่ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เพราะเด็กอาจกัดปรอทแตกได้
วัดไข้ทางรักแร้ สามารถได้โดยการเหน็บปรอทวัดไข้ไว้ที่รักแร้โดยให้ปลายของเทอร์โมมิเตอร์อยู่กึ่งกลางรักแร้ สำหรับปรอทวัดไข้ธรรมดาให้รอประมาณ 4 นาทีให้ปรอทนิ่งจึงอ่านค่า ส่วนปรอทแบบดิจิตอลให้รอจนมีสัญญาณดังก่อนจึงอ่านค่า
การวัดไข้ด้วยวิธีนี้ทำได้ง่าย สะดวก เหมาะกับการวัดไข้เด็กแรกเกิดหรือเด็กเล็ก แต่ผลอาจไม่แม่นยำเท่าการวัดไข้ทางปากหรือทางทวารหนัก และไม่ควรวัดไข้ทางรักแร้หลังอาบน้ำทันทีหรือขณะใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น เพราะอาจส่งผลต่ออุณหภูมิที่วัดได้
วัดไข้ทางทวารหนัก เป็นวิธีที่นิยมใช้ในเด็กเล็ก โดยก่อนวัดไข้ให้เช็ดทำความสะอาดและทาสารหล่อลื่นที่ปลายปรอทก่อนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ จากนั้นสอดปรอทวัดไข้เข้าไปในรูทวารลึกประมาณ 1.25 - 2 เซ็นติเมตร รอประมาณ 2 นาทีให้แถบปรอทหยุดนิ่งก่อนจึงอ่านค่าอุณหภูมิ วิธีนี้ควรทำอย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้บาดเจ็บได้
นอกจากการใช้ปรอทวัดไข้ด้วยวิธีที่กล่าวมาแล้ว เราสามารถวัดอุณหภูมิในร่างกายด้วยวิธีอื่น ๆ ได้อีก เช่น วัดไข้ทางหูด้วยเครื่องวัดไข้แบบอินฟาเรด วัดไข้ทางผิวหนังด้วยแถบวัดไข้ เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เครื่องมือที่มี และการวินิจฉัยของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่
ปรอทวัดไข้ เก็บอย่างไรให้ถูกวิธี
สำหรับการเก็บรักษาปรอทวัดไข้แบบหลอดแก้วนั้น หลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำสบู่จนสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเก็บไว้ให้ไกลมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
เลือกซื้อปรอทวัดไข้ที่ดีและมีคุณภาพได้ที่ร้านขายยาฟาสซิโนทุกสาขา
และฟาสซิโนออนไลน์ คลิ้กเลย
บทความแนะนำ
- เคล็ดลับ รับมือลูกหลับยาก
- 5 สารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านทานโรค
- สิ่งที่มักเข้าใจผิดเรื่องไข้เลือดออก และแนวทางป้องกัน
ขอบคุณภาพจาก Freepik