เคล็ดลับ รับมือลูกหลับยาก

หากพูดถึงปัญหาของการเลี้ยงลูกแล้ว หนึ่งในปัญหาคลาสสิคที่หลายบ้านต้องเคยเจอก็คือ “ลูกหลับยาก” และเนื่องจากเด็กยังพูดไม่ได้ สื่อสารลำบาก จึงไม่สามารถบอกเราได้ว่าที่ทำให้นอนไม่หลับนั้นแท้จริงแล้วเกิดจากอะไรกันแน่ ดังนั้น ต้องเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยตลอดเวลา วันนี้เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่รับมือกับการนอนหลับยากของเจ้าตัวน้อยมาฝากกัน

ระยะเวลาการนอนของเด็กแต่ละช่วงวัย 

วัยเด็กเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากร่างกายอยู่ในช่วงที่กำลังเจริญเติบโตทำให้ระยะเวลาการนอนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยเด็กแต่ละช่วงวัยนั้นมีระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมไม่เท่ากัน ซึ่งอาจแบ่งได้ ดังนี้ 

• เด็กอายุไม่เกิน 6 เดือน นอนวันละประมาณ 14 - 18 ชั่วโมง
• เด็กอายุ 9 - 12 เดือน นอนวันละประมาณ 14 ชั่วโมง
• เด็กอายุ 1 - 3 ปี นอนวันละประมาณ 12 - 14 ชั่วโมง
• เด็กอายุ 3 - 5 ปี นอนวันละประมาณ 11 - 12 ชั่วโมง
• เด็กอายุ 5 - 12 ปี นอนวันละประมาณ 10 - 11 ชั่วโมง 

ขอบคุณภาพจาก Freepik

ลูกหลับยาก เป็นเพราะอะไร ? 

การที่ลูกนอนไม่หลับหรือหลับยากนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่เนื่องจากลูกน้อยบอกเราเป็นคำพูดไม่ได้ ทำได้แค่ร้องไห้เท่านั้น จึงต้องอาศัยการสังเกตพฤติกรรมการเลี้ยงดูของตัวผู้ปกครองเอง โดยมีตัวอย่างของปัจจัยที่อาจทำให้เด็กหลับยาก เช่น

• กินน้อยเกินไป ทำให้ลูกหิวจนนอนไม่หลับ
• ง่วงเกินไปหรือเหนื่อยเกินไป อาจทำให้ลูกนอนไม่หลับได้
• ลูกได้รับการกระตุ้นมากเกินไป เช่น มีคนเล่นด้วยทั้งวัน ออกไปเที่ยวนอกบ้าน ติดแทปเลต เป็นต้น 
• ลูกติดแม่ ถ้าไม่ได้เห็นแม่หรือหาแม่ไม่เจอก็อาจทำให้เด็กไม่ยอมนอน
• ปัญหาสุขภาพบางอย่างก็อาจทำให้เด็กนอนหลับยากได้ เช่น เป็นไข้ ไม่สบายท้อง สมาธิสั้น หรือผลกระทบจากยาบางชนิด เป็นต้น

ขอบคุณภาพจาก Freepik

เคล็ดลับรับมือลูกหลับยาก 

• พาลูกเข้านอนเป็นเวลา

พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรให้เด็กเข้านอนเวลาเดิมทุกวันเพื่อให้เด็กเกิดความเคยชินและเรียนรู้ว่าต้องนอนเมื่อถึงเวลา เป็นการสร้างนิสัยการนอนที่ดีให้เด็กไปในตัว นอกจากสอนเข้านอนเป็นเวลาแล้ว ควรฝึกให้เด็กตื่นเวลาเดิมเป็นประจำด้วย   

• ใช้ตัวช่วยพาลูกนอน

หากลูกนอนหลับยาก พ่อแม่อาจหาอุปกรณ์บางอย่างมาเป็นตัวช่วยกล่อมให้ลูกหลับง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้เด็กดูดจุกหลอกก่อนนอน หรือใช้วิธีร้องเพลงกล่อม เปิดเพลงคลอ พร้อมตบก้นเบา ๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกสบายใจและนอนหลับได้ในที่สุด

• จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

การจัดสภาพแวดล้อมในห้องให้เหมาะกับการนอนเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ในห้องนอนต้องไม่มีแสงหรือเสียงเข้ามารบกวนการนอนของลูก อุณหภูมิในห้องก็สำคัญไม่แพ้กัน หากร้อนเกินไปอาจทำให้ลูกเหงื่อออกจนตื่นกลางดึก หากอุณหภูมิในห้องเย็นเกินไปก็อาจทำให้ลูกเป็นไข้ได้อีก

• ใส่เสื้อผ้าขนาดพอดี ไม่แน่นเกินไป

ผ้าอ้อมที่เปียกชื้นอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวและนอนไม่หลับในเวลากลางคืน ผู้ปกครองจึงควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยก่อนเข้านอนเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว รวมทั้งชุดนอนของเจ้าตัวน้อยก็ควรเลือกขนาดที่ใส่สบายไม่เล็กหรืออึดอัดจนเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ลูกนอนหลับยากได้เช่นเดียวกัน

• ให้กินแต่พอดี

การที่ลูกกินน้อยเกินไปหรือกินมากเกินไปก่อนนอนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกหลับยากได้ หากกินน้อยเกินไปอาจทำให้ลูกหิวกลางดึก ส่วนถ้ากินมากเกินไปก็อาจทำให้ลูกอึดอัด ไม่สบายตัว จนทำให้นอนไม่หลับ ดังนั้น ก่อนนอนจึงควรให้ลูกกินแต่พอดี เพื่อไม่ให้กระทบต่อการนอนของลูกน้อย

ขอบคุณภาพจาก Freepik

การพักผ่อนของวัยเด็กนั้นสำคัญมาก หากไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพออาจส่งผลต่อพัฒนาการของตัวเด็กได้ ถึงแม้ปัญหาลูกนอนหลับยากจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล แต่ก็ไม่ควรวางใจ หากลูกมีอาการนอนหลับยากเป็นเวลานาน หรือการนอนหลับยากนั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของลูก ก็ควรพาไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาอย่างถูกต้อง

ขอบคุณข้อมูลจาก parentsone.com / haamor.com / happymom.in.th