สิ่งที่มักเข้าใจผิดเรื่องไข้เลือดออก และแนวทางป้องกัน

ทุกคนรู้ดีว่า "ยุงลาย" ตัวเล็กๆ สามารถนำพาโรคร้ายอย่าง "โรคไข้เลือดออก" มาคร่าชีวิตคนที่เรารักได้ แต่หลายครอบครัวก็ยังละเลยที่จะระวังอันตรายจากเจ้ายุงลายตัวร้ายนี้

จากการสำรวจของกรมควบคุมโรคพบว่า ในปี 2562 นับตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม มีผู้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันถึง 1.5 เท่า และแม้ไข้เลือดออกเป็นโรคที่มักระบาดในช่วงหน้าฝน แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังสามารถพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้ตลอดทั้งปี เราจึงต้องระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไข้เลือดออก

ยาลดไข้ไม่ช่วยให้หายไข้เลือดออก

ระยะเริ่มแรกของผู้ป่วยไข้เลือดออกส่วนใหญ่มักมีไข้สูง ต่อให้กินยาหรือเช็ดตัวแล้วก็ไม่ช่วยให้หาย เนื้อตัว ใบหน้ามักแดงกว่าปกติ บางคนมีผื่นขึ้นและเป็นเยื่อบุตาอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้ถึงระยะวิกฤติ อาจทำให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากเป็นไข้ กินยาแล้วไม่หายภายใน 2 วัน ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นไข้เลือดออก และรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

คนอ้วนระวัง! ป่วยไข้เลือดออกรักษายาก

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ต้องประคับประคองไปตามอาการ หากมีอาการแทรกซ้อนจึงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ โดยหนึ่งในกลุ่มคนที่เสี่ยงมีอาการแทรกซ้อนจากไข้เลือดออกมากที่สุดได้แก่ คนอ้วน เพราะการรักษาโรคไข้เลือดออกต้องให้น้ำเกลือซึ่งต้องคำนวนจากน้ำหนักตัว ทำให้คำนวณได้ยากกว่าปกติ นอกจากนี้คนอ้วนยังอาจมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันสูง

นอกจากคนอ้วนแล้ว กลุ่มคนที่มีภาวะเสี่ยงมากกว่าปกติเมื่อเป็นไข้เลือดออก เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างมีประจำเดือน และ ผู้ป่วยโรคหัวใจ

ติดเชื้อครั้งที่สองอาการหนักขึ้น

โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ซึ่งมีอยู่ 4 สายพันธุ์ โดยทั่วไปถ้าติดเชื้อไวรัสแดงกี่ครั้งแรก ผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง อาจแค่มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีผื่นขึ้น และหายในเวลาประมาณ 7 วัน โดยมีภูมิต้านทานไวรัสเดงกีตัวนั้น แต่หากติดเชื้อไวรัสเดงกีอีกครั้ง โดยเป็นไวรัสที่ต่างสายพันธุ์จากครั้งแรก อาจมีอาการรุนแรงจนเกิดเป็นภาวะไข้เลือดออกได้

ห้ามกินแอสไพรินเด็ดขาด

ผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกมักมีอาการไข้สูง แต่มักไม่มีอาการไอหรือมีน้ำมูกเหมือนไข้หวัด หลายคนซื้อยาสามัญประจำบ้าน ที่มีผลในการลดไข้กินเอง แต่คุณหมอเตือนว่า อย่าซื้อยาแอสไพรินและและไอบูโพรเฟ่นมากินเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และเกิดอาการช็อคได้

ป้องกันยุงป้องกันโรค

วิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวเราและคนที่เรารักจากไข้เลือดออก คือป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด รวมทั้งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยให้ทำดังนี้

1. ทำลายแหล่งน้ำขังต่างๆ ไม่ให้ยุงมาเพาะพันธุ์
2. ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงลายเข้าบ้าน
3. จัดบ้านให้สะอาดเรียบร้อย ไม่ควรให้ในบ้านมีมุมอับมืด
4. หากต้องไปในที่ที่มียุงชุม ควรทายากันยุงป้องกันเสมอ และสวมเสื้อผ้าแขนยาวขายาวที่มีความหนา เพื่อป้องกันยุงกัด
5. เตรียมผลิตภัณฑ์ป้องกันยุง พกติดตัวเอาไว้ เช่น โลชั่นทากันยุง หรือสติ๊กเกอร์ติดกันยุง